วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ธาตุในพระพุทธศาสนา

ธาตุในพระพุทธศาสนา คำว่า ธาตุ หมายถึง สิ่งที่มีอยู่เดิม หรือ สิ่งที่เป็นต้นเดิม เป็นสภาพที่รักษาคุณสมบัติเดิมของตนเองไว้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปรหรือเสื่อมสิ้นไปตามกาลเวลาที่ล่วงไป ๆ หมายความว่า เดิมมีคุณภาพอย่างไร ก็คงมีคุณภาพอย่างนั้นอยู่เสมอ เช่น ธาตุดิน ก็ย่อมรักษาความแค่นแข็งของตัวเองไว้ ไม่กลับกลายหรือเสื่อมเป็นธาตุอื่น ธาตุน้ำ ก็ย่อมรักษาความเอิบอาบ เหลวและไหลไว้ตลอดกาล ไม่กลับกลายเป็นธาตุไฟไปได้ ดังนี้เป็นต้น มีพระบาลีในวิภังคสูตร ว่าไว้ดังนี้ "ฉ ธาตุโย อยํ ปุริโส" แปลว่า "ในรูปร่างกายของคนเรานี้ มีธาตุอยู่ ๖ ธาตุ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ อากาศธาตุ วิญญาณธาตุ(จิต) ซึ่งประชุมปรุงแต่งให้เป็นรูปร่างกายอยู่ได้ ถ้าขาดธาตุใดธาตุหนึ่งไปเสีย รูปร่างกายนี้ก็ย่อมวิปริต พิกล พิการ แตกทำลายลงได้" ทั้งนี้หมายความว่า ธาตุทั้ง ๖ แต่ละธาตุ...

กาย 3 ชนิด

จิตกับวิญญาณ (ธาตุรู้กับการรับรู้อารมณ์) เนื่องจากจิตสามัญชน คุ้นเคยกับอารมณ์ทั้งหลายมาเป็นเวลาช้านานแล้ว ดังนั้น เมื่อมีอารมณ์มากระทบ ก็ย่อมรับรู้และยึดถืออารมณ์นั้นๆไว้เสมอไป จึงเกิดวิญญาณ ๖ ขึ้น แต่จิตพระอริยะนั้น ได้รับการอบรมให้ปล่อยวางอารมณ์ทั้งหลายที่เข้ามากระทบเสีย วิญญาณ ๖ จึงดับหมดสิ้น เหลืออยู่แต่จิตบริสุทธิ์ นิ่ง สงบอยู่เท่านั้น การรู้ของพระอริยะนี้เป็นเพียง รู้สักแต่ว่ารู้ (ญาณมตฺตาย) ระลึกก็สักแต่ว่าระลึก (ปฏิสฺสติมตฺตาย) เท่านั้น ไม่มีตัณหาและมิจฉาทิฏฐิปรุงแต่งอยู่ด้วย ดังพระบาลีว่า: "วิญฺญาณสฺส นิโรเธน ตณฺหกฺขย วิมุตฺติโน ปชฺโชตสฺ เสว วิญฺญาณํ วิโมกฺโข เจตโส อหุ" แปลว่า "จิตพระขีณาสพพ้นจากวิญญาณปรุงแต่ง เพราะหลุดพ้นจากตัณหาได้ เหมือนเปลวไฟที่แลบดับ เนื่องจากวิญญาณดับหมดสิ้น" จิตพระอริยะนั้นบริสุทธิ์,ไม่ได้ดับ การรับรู้อารมณ์เท่านั้นที่ดับไปจากจิต...

จิตกับร่างกาย

จิตกับร่างกาย เนื่องจาก จิต เป็นสภาพธรรมที่ ไม่มีรูปร่าง (อสีรีรํ) จึงไม่สามารถติดต่อรับรู้อารมณ์ใดๆได้โดยตรง เมื่อเข้าไปถือกำเนิดในภพภูมิใดก็ตาม จะต้องสร้างรูปร่างกายไว้ใช้อาศัย(ภพ)สำหรับติดต่อกับอารมณ์อีกทอดหนึ่ง สำหรับมนุษย์นั้น จิตจะต้องสร้างร่างกายขึ้นสำหรับอาศัย โดยเข้าครอบครองหยดน้ำของบิดามารดาที่ผสมกันแล้ว จนกระทั่งหยดน้ำแห้งงวดเข้าตามลำดับ เรียกตามภาษาบาลีว่า กลละ, อัมพุชะ, คณเปสิ, ปัญจะสาขา ซึ่งแยกเป็นหัว ๑, มือ ๒, เท้า ๒ รวม ๕ กิ่งในที่สุด จัดว่าเป็นรูปทารกได้แล้ว แต่ยังต้องรอเวลาเจริญเติบโตในครรภ์มารดาอีก ๘-๙ เดือน จึงจะคลอดออกมาสู่โลกภายนอก รูปร่างกายมนุษย์ ที่คลอดออกมานี้ ประกอบด้วยธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ (มหาภูตรูป ๔) เนื่องจากมหาภูตรูป ๔ มีธาตุไฟประกอบอยู่ด้วย ดังนั้น รูปร่างกายจึงถูกธาตุไฟเผา ให้เปลี่ยนแปรสภาพไปตามกาลเวลาที่ล่วงไปตลอดเวลาเมื่อจิตเข้าครอบครองและยึดถือไว้...

จิต ตัวตน คือเรา

ถ้าจิตไม่เข้าไปยึดถืออารมณ์ ก็ย่อมพ้นจากความตาย ความตาย เป็นรูปแบบการเปลี่ยนแปรครั้งสุดท้ายของรูปร่างกาย หลังจากที่ได้ประชุมปรุงแต่งขึ้นมาแล้ว พระพุทธองค์ ทรงหมายความถึง แตกแยกออกจากการประชุมพร้อมของ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ และวิญญาณธาตุ(จิต) แยกตัวออกไปผสมกับกลุ่มธาตุผสมกลุ่มอื่นต่อไป ตามเหตุปัจจัย ขณะสิ้นใจ พูดให้ชัดเจนขึ้นก็คือ วิญญาณธาตุ(จิต) จุติ (เคลื่อน)ออกจากรูปร่างกาย ซึ่งได้ปรวนแปรแตกแยกไป จนไม่สามารถกลับคืนมาสู่สภาพปรกติ,เท่านั้น ไม่ได้ดับตายหายสูญไปไหน โปรดดูคำจำกัดความของคำว่า ความตาย ใน สติปัฏฐานสูตร ซึ่งว่าไว้ดังนี้ คือ ความจุติ,ความเคลื่อนไป,ความแตกทำลาย,ความหายไป,มฤตยู,ความตาย,ความทำกาละ,ความแตกแห่งขันธ์,ความทิ้งซากศพไว้,ความขาดไปแห่งชีวิตินทรีย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่จิตแยกออกจากรูปร่างกายนี้ทั้งสิ้น เราจะเห็นได้ว่า จิตไม่ใช่สภาพธรรมที่ตาย แต่ได้เข้ามายึดถือและปฏิสนธิรวมอยู่กับร่างกายซึ่งจะต้องตายตามอายุขัย...

วิทยุออนไลน์

ยินดีต้อนรับทุกๆท่านที่ชอบฟังธรรมะ

 สวดมนต์จีน >::สวดมนต์อินเดีย >และสวดมนต์ธิเบต>::สวดมนต์ไทย >::เสียงหนังสือธรรมะ >::เสียงเพลงธรรมะ::,

 ::suwanradio คือมิตรภาพบนโลกไอที ::
 

สถานีความแห่งความรู้สาระธรรมบนโลกอินเตอร์เน็ต ศูนย์รวมแห่งเสียงธรรมะดีดี 


วิทยุวัดป่าดอนสวรรค์

Blogger Tricks


 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons